ยินดีต้อนรับ เข้าสู่ เว็บ blogger ของพวกเราค่ะ





เชิญผู้เข้าชมทุกท่าน ติชมได้ตามความเหมาะสมค่ะ

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ชื่อโครงงาน

ชื่อโครงงาน                                

   (ภาษาไทย)  การพัฒนาสื่อเพื่อการศึกษา เรื่องเซลล์       
   (ภาษาอังกฤษ) The developent web site on cell

คุณครูที่ปรึกษา  คุณครูลัดดาวัลย์  มามาตร

ชื่อผู้ทำโครงงาน
1.       ด.ญ.รดา                พรประสิทธิ์               เลขที่ 25               ชั้นม.3/9
2.       ด.ญ.วรรณา          ดาวทอง                       เลขที่ 29               ชั้นม.3/9
3.       ด.ญ.อุไรวรร ณ์    ขันตะเภา                   เลขที่ 43                ชั้นม.3/9


ความหมายของเซลล์

ความหมายของเซลล์

เซลล์ตามความหมายดั้งเดิม 
                โรเบริต์ ฮุค เป็นบุคคลเเรกสุดที่นำคำว่าเซลล์มาใช้ โดยเซลล์ในความหมายของโรเบิร์ต ฮุค หมายถึง ห้องว่าง


รูปกล้องชนิดเลนส์ประกอบที่ผลิตขึ้นโดย โรเบิร์ต ฮุค แท่นวางวัตถุ และอุปกรณ์สำหรับรวมแสงเพื่อส่องไปยังวัตถุ         


เซลล์ในความหมายปัจจุบัน
               เซลล์ในความหมายปัจจุบัน หมายถึง หน่วยพื้นฐานของโครงสร้างและการทำหน้าที่ของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ซึ่งประกอบด้วยเยื่อหุ้มเซลล์ และโพรโทพลาซึม นอกเหนือจากนี้ถัดจากเยื่อหุ้มเซลล์ออกมา จะมีชั้นสารเคลือบเซลล์อยู่ชั้นนอกสุด


ประเภทของเซลล์

ประเภทของเซลล์

วิธีการจัดกลุ่มเซลล์ไม่ว่าเซลล์นั้นจะอยู่ตามลำพังหรืออยู่เป็นกลุ่ม ได้แก่ สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว (unicellular) ซึ่งดำรงชีวิตเพื่อความอยู่รอด จนไปถึงการอยู่รวมกันเป็นกลุ่มที่เรียกว่า โคโลนี (colonial forms) หรือ สิ่งมีชีวิตหลายเซลล์ (multicellular) ซึ่งเซลล์เหล่านี้จะกลายเป็นเซลล์เฉพาะทางที่แตกต่างกันหลายรูปแบบ เช่น เซลล์ต่างๆ ในร่างกายมนุษย์
โดยสรุป เซลล์สามารถแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ



                                                    

คุณสมบัติของเซลล์

คุณสมบัติของเซลล์

แต่ละเซลล์มีองค์ประกอบและดำรงชีวิตได้ด้วยตัวของมันเอง โดยการนำสารอาหารเข้าไปในเซลล์และเปลี่ยนสารอาหารให้กลายเป็นพลังงานเพื่อการดำรงชีวิตและการสืบพันธุ์เซลล์มีความสามารถหลายอย่างดังนี้:

ส่วนประกอบของเซลล์

ส่วนประกอบของเซลล์
ภาพเซลล์โดยสัตว์ทั่วไป ประกอบด้วยออร์แกเนลล์ต่าง ๆ ดังนี้
1.นิวคลีโอลัส คือ เป็นส่วนหนึ่งของนิวเคลียส ที่มีลักษณะเป็นก้อนอนุภาคหนาทึบ ประกอบด้วยสารประเภท RNA และสารอื่นที่เป็นองค์ประกอบของไรโบโซมนิวคลีโอลัสพบเฉพาะเซลล์ของพวกยูคาริโอตเท่านั้น เซลล์อสุจิ เซลล์เม็ดเลือดแดง ที่เจริญเติบโตเต็มที่ ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม และเซลล์ไฟเบอร์ของกล้ามเนื้อ จะไม่มีนิวคลีโอลัส นิวคลีโอลัส เป็นตำแหน่งที่ติดสีเคมี บนโครโมโซม ประกอบด้วยสารประเภท DNA TNA ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับ กลไกการสร้างโปรตีน
2. นิวเคลียส คือออร์แกเนลล์ที่มีเยื่อหุ้มพบในเซลล์ยูแคริโอต ภายในบรรจุสารพันธุกรรม (genetic material) ซึ่งจัดเรียงตัวเป็นดีเอ็นเอ (DNA) สายยาวรวมตัวกับโปรตีนหลายชนิด เช่น ฮิสโตน (histone) เป็นโครโมโซม (chromosome) ยีน (gene) ต่างๆ ภายในโครโมโซมเหล่านี้ รวมเรียกว่า นิวเคลียส จีโน หน้าที่ของนิวเคลียสคือการคงสภาพการรวมตัวของยีนเหล่านี้และควบคุมการทำงานของเซลล์โดยการควบคุมการแสดงออกของยีน (gene expreesion)
3.ไรโบโซม คือ เป็นออร์แกแนลล์ที่ประกอบด้วยโปรตีนและ rRNAเป็นสารเชิงซ้อนของ RNA และ โปรตีน ที่พบใน เซลล์ทุกชนิด ไรโบโซมจาก แบคทีเรีย, อาร์เคีย และ ยูคาริโอตมีโครงสร้างและ RNA ที่แตกต่างกัน ไรโบโซมในไมโตคอนเดรียของเซลล์ยูคาริโอตมีลักษณะคล้ายกับไรโบโซมของแบคทีเรียการทำงานของไรโบโซมในการแสดงออกของยีนไปสู่การสร้างโปรตีนเรียกทรานสเลชัน ไรโบโซมยังทำหน้าที่ในการต่อกรดอะมิโนเดี่ยวให้เป็นโพลีเปบไทด์ โดยต้องมีการจับกับ mRNA และอ่านข้อมูลจาก mRNA เพื่อกำหนดลำดับของกรดอะมิโนให้ถูกต้อง การนำโมเลกุลของกรดอะมิโนเข้ามาเป็นการทำงานของ tRNA ซึ่งจับอยู่กับโมเลกุลของกรดอะมิโนอยู่ก่อนแล้ว
4.เวสิเคิล คือ ซึ่งมีลักษณะ คล้ายถุงกลมขนาดเล็ก กระจายอยู่ทั่วไป เวสิเคิล ทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นกับสารที่บรรจุอยู่ ในเวสิเคิลนั้น เวสิเคิลบางชนิดในเซลล์สัตว์ เช่น ไลโซโซม (Lysosome) มีเอนไซม์ต่างๆ อยู่ ภายใน เอนไซม์เหล่านี้สามารถย่อยสารได้หลายอย่าง เช่น คาร์โบไฮเดรต ลิพิด โปรตีนและสารอื่นๆ ทำให้มีการย่อยสารต่างๆ ภายในเซลล์ นอกจากนี้ยัง สามารถย่อยเชื้อโรคต่างๆ หรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่เซลล์ เช่น การย่อยเชื้อโรค ของเซลล์เม็ดเลือดขาว เป็นต้น
5.เอนโดรพลาสมิกริติคูลัมชนิดขรุขระ คือ เอนโดพลาสมิก เรติคูลัมแบบขรุขระ (rough endoplasmic reticulum : RER) เป็นชนิดที่มี ไรโบโซมเกาะ หน้าที่ การสังเคราะห์โปรตีน ของไรโบโซมที่เกาะอยู่ โดยมีกอลจิบอดี (golgi body) เป็นตัวสะสม หรือทำให้มีขนาดพอเหมาะ ที่ส่งออกนอกเซลล์ ลำเลียงสาร ซึ่งได้แก่ โปรตีน ที่สร้างได้ และสารอื่นๆ เช่น ลิพิดชนิดต่างๆ ในเซลล์ที่เกิดใหม่ พบว่ามี RER มากกว่า SER แต่เมื่เซลล์มีอายุมากขึ้น พบว่า SER มากกว่า RER เชื่อกันว่า RER จะเปลี่ยนเป็น SER เมื่อเซลล์มีอายุมากขึ้น พบในตับอ่อน ลำไส้เล็ก ต่อมใต้สมอง มีการลำเลียงแบบ intracellular transport
6.กอลจิบอดี คือ กอลจิบอดี มีรูปร่างเป็นลักษณะคล้ายชามซึ่งเรียกว่า ซิสเทอร์นา (cisterna หรือ flattened sac) เป็นถุงแบนๆ หรือเป็นท่อเรียงซ้อนกัน เป็นชั้นๆ มีจำนวนไม่แน่นอน มีประมาณ 5-10 ชั้น มักพบ 2-8 อัน ตรงปลายของถุงมักโป่งออก ถุงเหล่านี้มีผนัง 2 ชั้น หรือยูนิตเมมเบรนเหมือนๆ กับเยื่อหุ้มนิวเคลียส และเยื่อหุ้มเซลล์ และมีโครงสร้างคล้าย SER ภายในถุงมีของเหลวบรรจุอยู่ โดยทั่วไป จะพบในเซลล์สัตว์ มีกระดูกสันหลัง มากกว่าสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังรูปร่างของกอลจิบอดี จะเปลี่ยนอยู่เสมอ เป็นเพราะบางส่วนเจริญเติบโต บางส่วนจะหด และหายไป ด้านที่มีการเจริญเติบโต จะสร้างตัวเองโดย มีการรวมตัวของเวสิเคล จากเอนโดพลาสมิก
7.ระบบเส้นใยเซลล์ คือ เป็นโปรตีนขนาดเล็กที่มารวมตัวกันเป็นเส้นใย ซึ่งมีบทบาทในการเคลื่อนที่และการรวมตัวของเซลล์เป็นเนื้อเยื่อ พบทั้งในโปรคาริโอตและยูคาริโอต
8.เอนโดรพลาสมิกริติคูลัมชนิดเรียบ คือ เอนโดพลาสมิก เรติคูลัมแบบเรียบ (smooth endoplasmic reticulum : SER) เป็นชนิดที่ไม่มี ไรโบโซมเกาะ พบมากในเซลล์ที่มีหน้าที่กำจัดสารพิษ และสร้างสารสเตอรอยด์ จึงพบในเซลล์ที่ต่อมหมวกไต เซลล์แทรกของเลย์ดิกในอัณฑะ เซลล์คอร์ปัสลูเทียมในรังไข่ และในเซลล์ของตับ และยังทำหน้าที่ คือ ลำเลียงสารต่างๆ เช่น RNA ลิพิด โปรตีน เนื่องจากผนังของ ER ยอมให้สารประกอบโมเลกุลใหญ่บางชนิด รวมทั้ง ลิพิด เอนไซม์ และโปรตีนผ่านเข้าออกได้ จึงเป็นทางผ่านของสาร และเกลือแร่เข้าไปกระจายทั่วเซลล์ รวมทั้งสารต่างๆ ยังอาจสะสมไว้ใน ER อีกด้วย และการขับของเสีย ออกจากเซลล์ โดยผ่านทาง ER เรียกว่า เอกโซไซโทซิส (exocytosis)
9. ไมโทรคอนเดรีย คือ ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ ถูกค้นพบครั้งแรกโดย คอลลิกเกอร์ ส่วนใหญ่มีรูปร่างกลมท่อนสั้น คล้ายไส้กรอก ภายในไมโทคอนเดรียสามารถพบ DNA ได้เช่นเดียวกับในนิวเคลียสและคลอโรพลาสต์ โดยเรียกว่า mtDNA
10.แวคิวโอล คือ แวคิวโอลเป็นช่องๆ ล้อมรอบด้วยเมมเบรนชนิดเยื่อยูนิตชั้นเดียว อยู่ภายในเซลล์ยูแคริโอต (eukaryotic cell) บางชนิด พบในเซลล์พืชส่วนใหญ่และสัตว์หลายชนิด โดยแวคิวโอลในสัตว์มักเล็กกว่าในพืช แวคิวโอลสามารถทำหน้าที่เป็นที่เก็บ หลั่ง และถ่ายของเหลวภายในเซลล์ แวคิวโอลและสารภายในถือว่าแตกต่างจากไซโตพลาสซึม สามารถแบ่งออกได้ 4 ประเภท คือ 1. Contractile vacuole จะพบในสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ในอาณาจักรโพรทิสตา ทำหน้าหน้าทีรักษาสมดุลของน้ำ 2. Food vacuole บรรจุอาหาร พบในเซลล์เม็ดลือดขาวบนสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวหรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นอกจากนี้เราอาจแบ่งได้อีก เช่น Fat vacuole 3. Sap vacuole จะเจอในเซลล์พืช ทำหน้าที่สะสมสีไอออน น้ำตาล กรดอะมิโน สะสมผลึกสารพิษในเซลล์ 4.Gas vacuole สำหรับสะสมแก๊สต่างๆ
11.ไซโทรพลาซึม คือ ไซโทพลาซีม เป็นส่วนหนึ่งของโปรโทพลาซึม ที่อยู่รอบ ๆ นิวเคลียส ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่มีชีวิตภายในเซลล์ เป็นของเหลว ซึ่งภายในมีหลายอย่างที่สำคัญเช่น คลอโรพลาส ในคลอโรพลาสมีคลอโรฟิลล์เอาไว้สังเคราะห์แสง มีออแกเนล ซึ่งทำให้เซลล์มีชีวิตอยู่ได้เป็นต้น ซึ่งสามารถพบได้ทั้งเซลล์พืชและเซลล์สัตว์
12.ไลโซโซม คือ ทำหน้าที่เป็นผู้ขนส่งเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยสลายโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต มีลักษณะเป็นถุง มีเยื่อหุ้มชั้นเดียว พบในเซลล์สัตว์และพืชบ้างชนิด และเม็ดเลือดขาว เซลล์พืชบ้างชนิด เช่น กาบหอยแครง หม้อข้าวหม้อแกงลิงเป็นพืชที่ขาด สารอาหารบ้างชนิด เช่น N (ไนโตรเจน) จึงใช้ไลโซโซมในการย่อยแมลง13.เซนทริโอล คือ เป็นออร์แกเนลล์ที่ไม่มีเยื่อหุ้ม พบในเซลล์สัตว์และสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ไม่พบในเซลล์พืชและ เห็ด รา เป็นบริเวณที่ยึดเส้นใยสปินเดิล ช่วยในการเคลื่อนที่ของโครโมโซมและแยกโครมาทิดออกจากกันในขณะที่เซลล์มีการแบ่งตัว พบอยู่เป็นคู่ วางตั้งฉากกัน อยู่ใกล้ ๆ กับเยื่อหุ้มนิวเคลียส  เซนทริโอลประกอบด้วย หลอดเล็ก ๆ เรียกว่า ไมโครทิวบูล (microtubule) เรียงเป็นกลุ่มกลุ่มละ 3หลอด มีทั้งหมด 9 กลุ่ม เชื่อมต่อกัน เป็นทรงกระบอก บริเวณตรงกลางไม่มีไมโคทูบูลเรียกการเรียงตัวแบบนี้ว่า 9 + 0 เซนทริโอลมี DNA และ RNA เป็นของตัวเอง จึงจำลองตัวเองและสร้างโปรตีนขึ้นเองได้



อ้างอิง

อ้างอิง
หนังสือคู่มือเตรียมสอบ สอวน. วิทยาศาสตร์ ม.ต้น ชีววิทยา
http ://www.thaigoodview.com
http://www.wikipedia.org/